ส.บอลให้โค้ชตัดสินใจดึงชนาธิป-ธีราทรลุยซูซูกิหรือไม่

ส.ลูกหนังไทย ระบุอยู่ที่ผู้จัดการทีมและโค้ชว่า อยากดึง “ชนาธิป-ธีราทร” 2 นักเตะจากเจลีกช่วยทีมชาติไทย ร่วมบู๊ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” หรือไม่ ยืนยันส.บอลยินดีพร้อมติดต่อให้ แต่ต้องยึดหลักกฏกติกาเจลีก “ถ้าลีกยังไม่จบเขาก็ยังไม่ปล่อย” แย้มเวลากระชั้นชิดมากต้องลงทะเบียน 23 คนและเริ่มลงเตะนัดแรก 5 ธ.ค. แต่เจลีกจบ 4 ธ.ค. เผยอยู่ที่ทีมงานว่าจะเว้นไว้ 2 ที่เพื่อรอแข้งจากแดนปลาดิบมาเสริมทัพช่วงท้ายรอบแบ่งกลุ่มและรอบตัดเชือกหรือไม่

    จากกระแสแฟนฟุตบอลชาวไทย ที่ยังลุ้นอยู่ว่า 2 นักเตะที่ค้าแข่งอยู่ในแดนอาทิตย์อุทัย ทั้ง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน จะสามารถมาช่วยทีมชาติไทย ลงเล่นใน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ได้หรือไม่ เนื่องจากโปรแกรมเจลีก 2021 นัดสุดท้าย จะเตะกันในวันเสาร์ที่ 4 ธ.ค.64 โดย “เจ” จะนำทัพคอนซาโดเล่ ซัปโปโร บุกไปเยือน โยโกฮาม่า เอฟซี ขณะที่ “อุ้ม” จะนำทัพโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เปิดบ้านรับมือ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่

    ล่าสุด “บิ๊กโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ต ถึงเรื่องดังกล่าวว่า “ถ้าเราดูจากครั้งที่แล้วจะไม่ได้มีแข้งที่ไปค้าแข้งต่างแดน เพราะว่าในปฏิทินของเจลีกเองจะจบหรือพักพอดีในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งอันนี้มันก็ต้องขึ้นอยู่กับทีมงาน และก็สต๊าฟฟ์โค้ชที่จะต้องตัดสินใจ เพราะถ้าเกิดคุณต้องลงทะเบียน 23 คน เพื่อใช้เล่นทั้งทัวร์นาเมนต์ คุณจะรอนักเตะจากเจลีกมาสมทบได้ในช่วงรอบตัดเชือกเท่านั้นหรือไม่”

    “ครั้งที่แล้วเป็นมิโลวาน ราเยวัช คุมทัพ ก็ไม่ได้ใช้งาน เพราะเขาต้องการให้คนที่อยู่ในแคมป์ ที่เขาเทรนมา ซ้อมกันมาได้อยู่จนจบ ก็ไม่ได้ปล่อยโควต้าเว้นว่างตรงนั้นให้กับนักเตะที่จะกลับมาจากเจลีก เพราะว่าการลงทะเบียนก่อนเข้าแข่งขัน มีแค่นั้นเลยทั้ง 23 คน”

    “ถ้าถามว่าทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้มีการบริการจัดการติดต่อไหม แน่นอนครับว่าถ้าผู้จัดการทีมหรือว่าโค้ชต้องการให้เรียกนั้นเรายินดีอยู่แล้ว เราดำเนินการแน่นอน ทางเจลีกเองเท่าที่สัมผัสมาก็จะยึดตามกติกาของเขาว่า ถ้าลีกยังไม่จบเขาก็ยังไม่ปล่อยครับ” “บิ๊กโจ้” กล่าวทิ้งท้าย

    ทั้งนี้ศึกลูกหนังชิงแชมป์อาเซียน หรือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” มีทีมเข้าร่วมชิงชัย 12 ทีม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ๆ ละ 5 ทีม ประกอบด้วย กลุ่ม เอ : สิงคโปร์ (เจ้าภาพ), ไทย, ฟิลิปปินส์, เมียนมา, บรูไน หรือ ติมอร์ เลสเต, กลุ่ม บี : เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, สปป.ลาว

โดยรอบแบ่งกลุ่มแข่งขันแบบพบกันหมด และจะนำอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยอันดับ 1 ของกลุ่ม เอ จะเข้าไปพบกับ อันดับ 2 ของกลุ่ม บี และอันดับ 1 ของกลุ่ม บี จะเข้ามาเจอกับอันดับ 2 จากกลุ่ม เอ เพื่อหาผู้ชนะจากทั้งสองคู่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป ซึ่งรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะแข่งขันในรูปแบบเหย้า-เยือน โดยใช้กฏอเวย์โกลในการตัดสิน

    สำหรับทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ “มาโน่ โพลกิ้ง” ที่อยู่ในกลุ่ม เอ มีโปรแกรมลงเตะประกอบด้วย วันที่ 5 ธ.ค.64 พบ ผู้ชนะจากรอบคัดเลือก (บรูไน หรือ ติมอร์ เลสเต), วันที่ 11 ธ.ค.64 พบ เมียนมา, วันที่ 14 ธ.ค.64 พบ ฟิลิปปินส์ และวันที่ 18 ธ.ค.64 พบ เจ้าภาพสิงคโปร์